รีวิว Router GL.iNet Opal (GL-SFT1200) Pocket-sized Travel
Table of contents
Intro
สวัสดีครับ ห่างหายไปนานเลย เพราะยุ่ง ๆ ครับ บทความนี้จะรีวิวสินค้า แต่ปกติไม่ค่อยได้เขียนบทความเกี่ยวกับรีวิวสินค้าเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยถนัด แต่ที่เขียนบทความนี้เพราะอยากจะมาเล่าการใช้งาน เพราะผมเพิ่งจะได้ของมาใช้งานสักพัก และเห็นว่าดีก็เลยอยากจะรีวิว Router Opal (GL-SFT1200) ขนาด Pocket-sized ด้วยพลัง OpenWrt เผื่อมีท่านอื่นสนใจครับ 😊
TL; DR;
Opal (GL-SFT1200) คือ Pocket Travel Router ขนาดเล็ก เหมาะสำหรับใช้พกพา สามารถใช้งานได้หลายโหมด แต่ประโยชน์หลัก ๆ คือใช้แชร์อินเตอร์เน็ตโดยสามารถทำได้ 4 วิธีคือ
- Cable คือเสียบสาย Lan แล้วใช้ปล่อยอินเตอร์เน็ตตามปกติ
- Repeater คือทำเป็นเครื่องเกาะสัญญาณแบบไร้สายจาก WiFi อื่นสักที่แล้วนำมาปล่อยสัญญาณต่อ
- 4G Modem คือการใช้อินเตอร์ผ่าน USB Modem แล้วนำมาปล่อยสัญญาณต่อ
- Tethering คือใช้อินเตอร์เน็ตสาย USB จากมือถือแล้วนำมาปล่อยสัญญาณต่อ (บน Android เวลาเปิด Hotspot สามารถปล่อยผ่านสาย USB ได้เรียกว่า USB Tethering)
สงสัยมั้ยว่า ทำไมไม่ใช้เน็ตมือถือปล่อย WiFi Hotspot เอาหล่ะ ?
เพราะว่า
- อินเตอร์เน็ตจากมือถือ ช้า และไม่เสถียรตามแต่ละพื้นที่ของสัญญาณ บางครั้งไม่เหมาะสำหรับใช้ทำงาน
- เปลือง หมายถึงเปลืองทั้งเน็ตที่ใช้งาน และเปลืองแบตเตอรี่มือถือที่ใช้ปล่อยสัญญาณ
- อ่าว Pocket WiFi ก็มีนะ แต่ก็ต้องซื้อ Sim และมีปัญหาเรื่องสัญญาณก็ตามที่เล่ามาหัวข้อด้านบน สรุปค่าใช้จ่ายต่อเดือนก็เปลืองกว่า
Pocket Travel Router เหมาะกับใครบ้าง
ใช้ทำงานนอกสถานที่
- พกพาสะดวกเพราะว่าเป็น Pocket-sized travel
- หากท่านเป็นผู้ที่ชื่นชอบไปทำงานร้านกาแฟ Pocket Router นั้นเหมาะมาก เพราะท่านสามารถใช้ Opal เกาะ WiFi สักตัว (Repeater Mode) เช่น TrueWiFi AIS-WiFi หรือ WiFi ของร้านกาแฟเอง จากนั้นสามารถนำมาใช้กระจายต่อให้อุปกรณ์อื่น ๆ ของคุณ
- ชอบออกไปทำงานข้างนอก และเบื่อที่จะต้อง Connect กับ WiFi ที่ร้านกาแฟทุกครั้ง Pocket Router นั้นสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้แถมยังสามารถจดจำ WiFi ที่เคย Connect ไว้ได้
- สำหรับคนที่มีชอบพกอุปกรณ์เยอะ ๆ ที่ต้องการความเสถียร เช่น ของผมมี 4 อุปกรณ์คือ (เยอะจัด 😅) ก็ไม่จำเป็นต้องมา Connect ใหม่ทุกครั้ง
- iPad
- มือถือ
- Laptop
- Nintendo Switch
- ถ้า WiFi Hotspot Login สามารถใช้ได้ 1 User ต่อ 1 อุปกรณ์ Pocket Router นั้นสามารถช่วยท่านได้ เพราะเราสามารถทำเป็น Repeater Mode คือการเกาะ WiFi สักตัวแล้วนำสัญญาณมาปล่อยต่อของเราเอง 😄
- ลด Latency หรือ Ping ของอินเตอร์เน็ตถ้าชอบเล่นเกมนอกสถานที่
- ต้องการความเป็นส่วนตัว Private network
- ออฟฟิศเคลื่อนที่
- สามารถช่วยกระจายสัญญาณให้ทีม
- Opal Router นั้นเป็นได้ทั้งโหมด VPN Client / VPN Server กรณีถ้าคุณต้องการใช้ VPN เชื่อมต่อไปที่ออฟฟิศ
- เมื่อ WiFi สัญญาณแรงและดีเราก็สามารถใช้ทำอะไรได้เยอะขึ้น เช่น การใช้โหมด Sidecar ใช้ iPad ของคุณเป็นจอแสดงผลที่สองสำหรับ Mac
ที่พักขนาดเล็ก ห้องพัก หรือหอพักนักศึกษา
- เหมาะสำหรับที่พักขนาดเล็ก ห้องพัก หรือหอพักนักศึกษา เนื่องจากเป็นการออกแบบ Minimalist และ Compact design
- Opal GL-SFT1200 มีทั้ง Gigabit Ethernet และ Dual-band Wi-Fi ทำให้ได้รับความเร็วที่ดี
- สเปคเครื่องดี และราคาของตัวอุปกรณ์นั้นไม่สูงมากทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี
Product Description
- Dual-band Wireless: ปล่อยสัญญาณได้พร้อมกันด้วยความเร็วไร้สายสูงสุด 300 Mbps (2.4GHz) + 867 Mbps (5GHz)
- พกพาสะดวก: ดีไซน์น้ำหนักเบา (144.8 ก.) ออกแบบมาสำหรับการเดินทางหรือการผจญภัยครั้งต่อไปของคุณ นอกจากดีไซน์ที่กะทัดรัดพกพาสะดวกแล้ว ยังช่วยให้คุณพกติดตัวไปได้ทุกที่อีกด้วย
- รักษาอินเทอร์เน็ตของคุณให้ปลอดภัย: รองรับ IPv6 OpenVPN & WireGuard ที่ติดตั้งไว้ให้แล้ว เข้ากันได้กับผู้ให้บริการ VPN กว่า 30 ราย บริการ Tor ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า รองรับการเข้ารหัส Cloudflare เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว
- Open Source & Programmable: ด้วยระบบได้ติดตั้ง Firmware OpenWrt และด้วยที่ OpenWrt เป็นเหมือน OS ที่สามารถทำอะไรได้หลายอย่างมาก เช่น SSH ได้ สามารถใช้ wakeonlan ได้ อีกทั้งคุณสามารถติดตั้งแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้เองเหมาะสำหรับการ DIY ต่าง ๆ
Specifications
- CPU: SF19A28, Dual-Core @1GHz
- Memory/Storage: DDR3 128MB / FLASH 128MB
- Gigabit Ethernet Ports: 3 x 10/100/1000Mbps
- WiFi Speed: 300Mbps(2.4GHz) + 867Mbps(5GHz)
- Interfaces: 1 x WAN Ethernet port, 2 x LAN Ethernet ports, 1 x Type-C Power Input, 1 x Reset button, 1 x Mode switch
- USB Port: 1 x USB 2.0
- ขนาด / น้ำหนัก: 118 x 85 x 30mm, 145g
Packaging Content
- Opal (GL-SFT1200)
- User manual
- Ethernet cable
- 5V/3A Type-C power adapter
จุดเด่น
- CPU 1GHz แบบ 2 Cores รองรับ Devices ได้เยอะ (โฆษณาว่ารองรับสูงสุด 52 เครื่อง) และ Ram 128MB / Rom 128MB
- Dual-band Wi-Fi ใช้ได้ทั้ง 5GHz (867 Mbps) และ 2.4GHz (300 Mbps)
- มี Gigabit Ethernet 3 ช่อง
- มีช่อง USB-A 2.0 สำหรับใช้แชร์ไฟล์ หรือใช้เป็นช่องต่อ Internet จาก USB Modem ที่ใส่ SIM (4G / 5G)
- มี Switch Mode ข้าง ๆ เครื่องที่เราสามารถกำหนดเองได้เช่น จะสลับเข้า VPN หรือเครือข่าย Tor
- Firmware เป็น OpenWrt (มีความสามารถเยอะ และลงโปรแกรมเพิ่มได้)
- USB Type-C Power input ใช้กับพวกใช้แบตเตอรี่เช่น Power Bank ได้ทำให้พกพาสะดวก
- เป็นได้ทั้ง VPN Client / Server โดยรองรับทั้ง OpenVPN และ WireGuard
- เข้าสู่เครือข่าย Tor แบบไร้ตัวตนง่าย ๆ ด้วย Switch mode ข้าง ๆ ของเครื่อง
- มี DNS Encryption โดยทำงานบนโปรโตคอล TLS ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการแอบฟังหรือติดตามโดยรองรับ Cloudflare หรือ NextDNS โดยสำหรับ NextDNS จะมีคุณสมบัติ ปกป้องจากภัยคุกคามความปลอดภัยทุกประเภท เช่น บล็อกโฆษณา เครื่องมือติดตามในเว็บไซต์ หรือแอพ และโหมดการควบคุมการใช้งานสำหรับเด็ก
การใช้งานจริง
จะเล่าแค่บางส่วนจากการใช้งานจริง ๆ แล้วส่วนตัวรู้สึกว่าชอบนะครับ ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ และความสามารถอย่างอื่นแนะนำให้อ่านได้ที่ Online guide https://docs.gl-inet.com/en/3/setup/gl-sft1200/first_time_setup/
การใช้พลังงาน
Opal (GL-SFT1200) นั้นมีช่อง Type-C สำหรับ Power adapter ทำให้สามารถใช้ไฟจากแบตเตอรี่ Power bank ได้เลยทำให้สะดวกต่อการใช้งานนอกสถานที่มาก
เปรียบเทียบขนาด
Size ค่อนข้างเล็กขนาดน่ารัก ไม่รู้จะเทียบขนาดกับอะไร เอาเป็นใหญ่กว่าบัตรเครดิต ประมาณนึง 😊
เมื่ออุปกรณ์ต่อสัญญาณจาก Network เดียวกัน
ถ้า WiFi แรงและเสถียรก็จะสามารถทำแบบนี้ได้ คือการใช้ iPad เป็นจอที่ 2 สำหรับ Extend Display mode (การใช้โหมด Sidecar ใช้ iPad ของคุณเป็นจอแสดงผลที่สองสำหรับ Mac)
การแชร์อินเตอร์เน็ต
แชร์อินเตอร์เน็ตโดยสามารถทำได้ 4 วิธีคือ
- Cable คือเสียบสาย Lan แล้วใช้ปล่อยอินเตอร์เน็ตตามปกติ
- Repeater คือทำเป็นเครื่องเกาะสัญญาณแบบไร้สายจาก WiFi อื่นสักที่แล้วนำมาปล่อยสัญญาณต่อ
- 4G Modem คือการใช้อินเตอร์ผ่าน USB Modem แล้วนำมาปล่อยสัญญาณต่อ
- Tethering คือใช้อินเตอร์เน็ตสาย USB จากมือถือแล้วนำมาปล่อยสัญญาณต่อ (บน Android เวลาเปิด Hotspot สามารถปล่อยผ่านสาย USB ได้เรียกว่า USB Tethering)
https://docs.gl-inet.com/en/3/setup/gl-sft1200/internet/
โดยส่วนตัวจะเน้นใช้โหมด Repeater คือทำเป็นเครื่องเกาะสัญญาณแบบไร้สายจาก WiFi อื่นสักที่แล้วนำมาปล่อยสัญญาณต่อ เพราะผมมีรหัสสำหรับเชื่อมต่อ TrueWiFi AIS-WiFi หรือ WiFi ของร้านกาแฟเองทำให้ได้รับสัญญาณอินเตอร์ที่เร็ว
โหมด Tethering จะเป็นตัวเลือกสุดท้ายถ้าไม่มี WiFi อื่น ๆ ให้เกาะใช้งาน 😄
VPN Client
อีกโหมดนึงที่ผมชื่นชอบกับ Opal (GL-SFT1200) คือการทำตัวเองเป็น VPN Client
โดย Opal (GL-SFT1200) สามารถทำตัวเองเป็นได้ทั้ง VPN Server / Client โดยรองรับทั้ง OpenVPN และ WireGuard®
กรณีการใช้งานของผมคือการเชื่อมต่อไปที่ VPN Server (WireGuard®) ที่บ้าน
https://docs.gl-inet.com/en/3/tutorials/wireguard_client/
Switch mode
เป็นรูปแบบการใช้งานที่สะดวกพอสมควร คือการเลื่อน Switch ด้านขวาของตัวเครื่องเพื่อกำหนดค่าการทำงานของสวิตช์โหมด
- ไม่มีฟังก์ชันใด ๆ เป็นค่าเริ่มต้น
- สามารถตั้งค่าเปิดหรือปิด Client WireGuard/OpenVPN
https://docs.gl-inet.com/en/3/setup/gl-sft1200/more_settings/#button-settings
เปิดใช้งาน DNS over TLS
เปิดใช้งาน DNS over TLS เป็น Encryption โดยทำงานบนโปรโตคอล TLS ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการแอบฟังหรือติดตามโดยรองรับ Cloudflare หรือ NextDNS โดยสำหรับ NextDNS จะมีคุณสมบัติ ปกป้องจากภัยคุกคามความปลอดภัยได้หลายประเภท เช่น บล็อกโฆษณา เครื่องมือติดตามในเว็บไซต์ หรือแอพ และโหมดการควบคุมการใช้งานสำหรับเด็ก
https://docs.gl-inet.com/en/3/setup/gl-sft1200/more_settings/#custom-dns-server
Network mode
Network mode นั้นมี 3 mode
- Router: ทำเป็น Private network ของคุณเอง โดย Router จะทำหน้าที่เป็น NAT Firewall และ DHCP server ของตัวเอง
- Access Point: สำหรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านสายจากนั้นใช้ WiFi กระจายสัญญาณต่อ
- Extender: การทำงานจะคล้ายกับ Access Point แต่แตกต่างกันตรงที่การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะเป็นแบบไร้สาย
https://docs.gl-inet.com/en/3/setup/gl-sft1200/more_settings/#network-mode
การใช้พลังงานจากแบตเตอรี่
จากการทดสอบการใช้งานเมื่อออกไปทำงานข้างนอกและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์พร้อม ๆ กัน 4 เครื่องพบว่าใช้งานแบตเตอรี่จาก Power bank น้อยมาก ๆ เพราะใช้งานผ่านไปประมาณ 4 ชั่วโมงแบตยังไม่ลดสักขีดเลย 👍
ราคา
สำหรับราคาของ Router GL.iNet Opal (GL-SFT1200) นั้นประมาณ 1,5xx บาท ถือว่าน่าจะถูกที่สุดสำหรับราคาต่อสเปคเครื่องที่ได้ และได้ใช้ OpenWRT
มีขายในหลายช่องทางในช่องทางออนไลน์ ลองหาและใช้ส่วนลดอาจจะได้ราคาถูกกว่านี้เยอะ เพราะผมก็ได้มาราคาถูกกว่านี้มาก เพราะใช้ล่วนลด 😅
🛒 สั่งซื้อที่ shopee: Router GL.iNet Opal (GL-SFT1200)
สรุป
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ สำหรับ Router GL.iNet Opal (GL-SFT1200) นั้นถือเป็น Router แบบพกพา Pocket-sized Travel ที่ดีมากตัวหนึ่งในตลาด และด้วยราคาที่ไม่ได้สูงมากถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดีเลย
นอกจากนี้ยังมีรุ่นเล็กกว่านี้และราคาถูกกว่า คือ GL-AR300M Series https://www.gl-inet.com/products/gl-ar300m/ ที่มีความสามารถทั้งหมดเหมือน ๆ กันแต่ต่างกันตรงสเปคของอุปกรณ์แค่นั้นก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ